วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

บารอกะห์ ตอน 3

ท่านหญิง “บารอกะหฺ” คือใคร ???
(ตอนที่ 3/3)
  คืนหนึ่ง พวกมุชริกปิดถนนที่มุ่งหน้าไปที่บ้านอัรกอมที่ท่านนบีมุฮัมหมัดใช้รวมตัวบรรดาสหายของท่านเพื่อเผยแผ่คำสอนของอิสลามให้แก่พวกเขาบะรอกะฮฺมีข้อมูลเร่งด่วนจากท่านหญิงคอดียะฮฺที่จะต้องส่งไปยังท่านนบีมุฮัมหมัดเธอเสี่ยงชีวิตของเธอพยายามที่จะไปให้ถึงบ้านอัรกอมเมื่อเธอมาถึงและถ่ายทอดข้อความไปยังท่านนบีมุฮัมหมัดแล้วท่านยิ้มและกล่าวกับเธอว่า...
"ขอเธอจงได้รับความจำเริญอุมมุอัยมาน แน่นอน เธอเป็นเจ้าของสถานที่หนึ่งในสวรรค์แล้ว"เมื่ออุมมุอัยมานจากไป ท่านนบีมุฮัมหมัดมองไปที่สหายของท่าน และถามว่า"หากมีผู้ใดจากหมู่พวกท่าน ต้องการจะแต่งงานกับสตรีผู้หนึ่งจากบรรดาชาวสวรรค์แล้วละก็ เขาควรแต่งงานกับอุมมุอัยมาน”
สหายทั้งหมดยังคงเงียบและไม่ได้พูดอะไร อุมมุอัยมานเป็นคนไม่สวย และไม่ดึงดูดใจ ตอนนี้เธออายุประมาณห้าสิบปีแล้ว และดูค่อนข้างอ่อนแออย่างไรก็ดี เซดอิบนุ ฮะรีซะฮฺขันอาสา โดยออกมากล่าวว่า…
“ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺฉันจะแต่งงานกับอุมมุอัยมานขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่าเธอดีกว่าผู้หญิงที่มีความสง่าและความงดงามเสียอีก”
  เซด และอุมมุอัยมานจึงแต่งงานกันและมีลูกชายหนึ่งคนที่พวกเขาตั้งชื่อว่าอุซามะฮฺท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺรักอุซามะฮฺดุจดังลูกชายของท่านเอง บ่อยครั้ง ท่านมักจะเล่นกับเขาจูบเขาและป้อนอาหารให้เขาด้วยมือของท่านเอง บรรดามุสลิมจะกล่าวว่า "เขาเป็นบุตรชายที่รักของผู้ที่เป็นที่รัก” ตั้งแต่เยาว์วัย อุซามะฮฺอุทิศตนทำงานศาสนาอย่างโดดเด่นและต่อมาก็ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานหนักๆแทนท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ
  เมื่อท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ อพยพไปมะดีนะฮฺเขาทิ้งอุมมุอัยมานไว้ที่มักกะฮฺเพื่อดูแลงานพิเศษบางอย่างในบ้านของเขา ในที่สุดเธอก็อพยพตามไปมะดีนะฮฺด้วยตัวของเธอเอง การเดินทางเป็นไปอย่างยาวนานและยากลำบาก เธอเดินเท้าผ่านทะเลทรายและภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ความร้อนที่แผดเผา และพายุกระหน่ำได้อำพรางหนทางของเธอ แต่เธอก็ไม่ลดละไม่ย่นย่อเผยให้เห็นความรักความผูกพันที่ลึกซึ้งของเธอที่มีต่อท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺเมื่อเธอมาถึงมะดีนะฮฺเท้าของเธอเจ็บและบวมและใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยทรายและฝุ่นละออง
"ยา...อุมมุอัยมาน ยา...อุมมีย์ (โอ้ อุมมุอัยมาน แม่ของฉัน) แท้จริงสวรรค์เป็นสถานที่สำหรับเธอ!"ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺอุทานเมื่อท่านเห็นเธอ ท่านเช็ดใบหน้าและตาของเธอ ท่านนวดเท้าให้เธอและลูบไหล่ของเธอด้วยมือที่อ่อนโยน และมีเมตตาของท่าน
  ในเมืองมะดีนะฮฺอุมมุอัยมานมีบทบาทอย่างเต็มที่ในกิจการของมุสลิม ที่อุฮุด เธอแจกจ่ายน้ำให้แก่ผู้ที่กระหายและมีทีท่าว่าได้รับบาดเจ็บ เธอได้ร่วมเดินทางไปกับท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺในกองทัพที่ไปยังที่ต่างๆ เช่น คอยบัรและฮุนัยนฺ เป็นต้น
  อัยมาน บุตรของเธอเป็นซอฮาบะฮฺผู้อุทิศตนของท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺเขาชะฮีดที่ฮุนัยนฺในปีที่แปดหลังฮิจญเราะฮฺเซด ผู้เป็นสามีของบะรอกะฮฺถูกสังหารในการรบที่มุตะฮฺในซีเรียหลังจากที่ได้สละทั้งชีวิตของเขาเพื่อรับใช้ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺอิสลามในเวลานี้บะรอกะฮฺอายุประมาณเจ็ดสิบปีแล้ว และใช้เวลาส่วนใหญ่ของเธออยู่แต่ในบ้านท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺพร้อมด้วยท่านอบูบักรฺและท่านอุมัรฺไปเยี่ยมเธออยู่บ่อยๆ และถามเธอว่า “ยา อุมมีย์ สบายดีไหม?”และเธอจะตอบว่า "สบายดีค่ะ ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺตราบใดที่ศาสนาอิสลามยังคงอยู่"
  บะรอกะฮฺมีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องที่เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ใกล้ชิดกับท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺตลอดชีวิตของท่านตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเสียชีวิต ชีวิตของเธอในบ้านของท่านศาสดาเป็นหนึ่งในการเสียสละแบบไม่คำนึงถึงตัวเอง เธอยังคงการอุทิศตนอย่างลึกล้ำทุ่มเทให้กับท่านศาสดาผู้มีความประเสริฐอ่อนโยนและห่วงใย ที่เหนือสิ่งอื่นใดคือความจงรักภักดีของเธอที่มีต่ออิสลามเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งและมั่นคง เธอเสียชีวิตในยุคการปกครองของท่านอุษมานและมั่นใจได้ว่าเธอมีที่อยู่ในสรวงสวรรค์แล้ว
  บะรอกะฮฺ เป็นที่รู้จักกันดีว่าคือท่านหญิง อุมมุ อัยมาน  เธอเป็นสตรีคนเดียว และเป็นหนึ่งจากบุคคลไม่กี่คนที่ได้รับเกียรติอันพิเศษในการรู้เห็นเป็นพยานกับทุกขณะชีวิตของท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิดของท่าน ผ่านวัยเด็กของท่าน– ผ่านชีวิตหนุ่มสาวและตลอดวัยของการเป็นผู้ใหญ่ของท่าน–จนกระทั่ง ท่านจากไป
แน่นอนที่สุด มันช่างเป็นเกียรติที่แสนจะพิเศษ !!!